วันศุกร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2551

ย้ายบล้อกแล้วครับ

ย้ายไปเป็น

http://swingdesign.blogspot.com/

เพื่อปรับเปลี่ยนแนวทางการทำบล้อกและเนื้อหาครับ

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Final Project



นี่เป็นงานที่สร้างเสร็จ หากแต่ยังสามารถแก้ไขได้อีกมาก
หากมีการพัฒนา จะนำมาให้ดูกันต่อไป

วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

จบลงที่ Motion Graphic

หลังจากได้ดำเนินการทำงานในโจทย์ เรื่อง
Micro Macro มาจนถึงสัปดาห์สุดท้าย

Message ที่เคยคิดไว้ได้ถูกสร้างออกมาเป็นโปสเตอร์

แต่ปรากฎว่าโดน Comment จากอาจารย์ทั้งสอง
ในเรื่องของความเหมาะสมของ Media ว่า
แนวคิดที่มันเป็น Sequence ก็ไม่ควรออกมาเป็นกระดาษ 3-4 แผ่น

ซึ่งหลังจากโดนเตือนสติ เลยกลับมานั่งทำงานสุดท้ายด้วยรูปแบบของ

" Motion Graphic "

ซึ่งเริ่มด้วยการถ่ายวีดีโอ แล้วปรับภาพให้เป็นกราฟิค
ซึ่งคิดว่าจะได้การเคลี่อนไหวที่ดีกว่า

...แต่ปรากฎว่ามันไม่เวริค ด้วยทักษะการถ่ายวีดีโอแบบ เก้ๆ กังๆ
และไฟล์วีดีโอที่ไม่ได้เป็นกรีนสกรีน ทำให้การ die cut ออกมาแล้ว
ภาพไม่ชัดเจนและได้มุมไม่ดีพอจะดูได้ - -"

สุดท้ายจึงจบลงด้วยการทำกราฟิคเป็นชิ้น แขนขา มาขยับเอาเอง

ดังนี้แหละครับ ^^"

วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Can't chance by one

อันนี้เป็นงานที่ทำในโปรเจ็คครับ :)

Global warming

ได้ฤกษ์สร้างงานปลุกกระแส โลกร้อน กันบ้าง
คิดว่าถ้าหลายคนได้คิดถึงเรื่องนี้กันจริงจังบ้างก็ดี
เพราะอนาคตเราก็ไม่เราก็ต้องลูกหลานเรา
ที่ได้รับผลกระทบ ช่วยกันคนละนิดละหน่อยก็ยังดีเนอะ ^^

เอาข้อมูลโลกร้อนมาฝากกัน
(ข้อมูลจาก ไทยวิกิพีเดีย
http://th.wikipedia.org)

ปรากฏการณ์โลกร้อน (Global warming) หมายถึงการเพิ่มของอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกของอากาศที่ระดับใกล้ผิวโลกและของน้ำในมหาสมุทรในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาและรวมถึงการพยากรณ์หรือคาดการณ์ในการเพิ่มที่ต่อเนื่อง

อุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยของอากาศที่ใกล้ผิวดินเพิ่ม 0.74 ± 0.18 °ซ ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมานับถึง พ.ศ. 2548[1] คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change-IPCC) ของสหประชาชาติได้สรุปไว้ว่า จากการสังเกตการณ์การเพิ่มอุณหภูมิโดยเฉลี่ยของโลกที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 (ประมาณตั้งแต่ พ.ศ. 2490) ค่อนข้างแน่ชัดว่าเกิดจากการเพิ่มความเข้มของแก๊สเรือนกระจกที่เกิดขึ้นโดยกิจกรรมของมนุษย์ที่เป็นผลในรูปของปรากฏการณ์เรือนกระจก[1] ปรากฏการณ์ธรรมชาติเช่นการผันแปรในการแผ่รังสีของดวงอาทิตย์และการระเบิดของภูเขาไฟอาจมีผลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับการเพิ่มอุณหภูมิในช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรมจนถึง พ.ศ. 2490 และผลด้านการลดอุณหภูมินับแต่ปี 2490 เป็นต้นมา[2][3] ข้อสรุปพื้นฐานดังกล่าวนี้ได้รับการรับรองโดยสมาคมและสถาบันการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ไม่น้อยกว่า 30 แห่ง รวมทั้งราชสมาคมทางวิทยาศาสตร์ระดับชาติของชาติสำคัญของประเทศอุตสาหกรรมต่างๆ[4] แม้จะมีนักวิทยาศาสตร์รายบุคคลบางคนมีความเห็นโต้แย้งในข้อสรุปของ IPPC อยู่บ้าง[5] แต่เสียงส่วนใหญ่ของนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานด้านการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศของโลกโดยตรงเห็นด้วยกับข้อสรุปนี้[6][7]

แบบจำลองการคาดคะเนภูมิอากาศที่สรุปโดย IPCC บ่งชี้ว่าอุณหภูมิโลกโดยเฉลี่ยที่ผิวโลกจะเพิ่มขึ้น 1.1 ถึง 6.4 °ซ ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 21 (พ.ศ. 2543-2643)[1] ช่วงของค่าตัวเลขได้จากการการจำลองสถานการณ์แบบต่างๆ ของสภาพไวของภูมิอากาศ แม้การศึกษาเกือบทั้งหมดจะพุ่งจุดไปที่ระยะเวลาถึง พ.ศ. 2643 แต่การร้อนขึ้นและระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจะยังคงเพิ่มต่อเนื่องไปอีกมากกว่าสหัสวรรษแม้ระดับของแก๊สเรือนกระจกจะอยู่ในภาวะสเถียรแล้วก็ตาม ความช้าในความสเถียรของอุณหภูมิและระดับน้ำทะเลเกิดจากความจุความร้อนที่สูงของน้ำในมหาสมุทร[1]

การเพิ่มอุณหภูมิของโลกจะทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นและคาดว่าจะเป็นเหตุให้เกิดการผันแปรที่รุนแรงของภูมิอากาศและเกิดการเปลี่ยนแปลงปริมาณและความถี่ของหยาดน้ำฟ้า ผลกระทบของโลกร้อนอื่นๆ รวมทั้งผลิตผลทางเกษตรและการเพิ่มช่วงกว้างของตัวนำเชื้อโรคต่างๆ อีกด้วย

ความไม่แน่นอนทางวิทยาศาสตร์อื่นๆ รวมถึงปริมาณของความร้อนที่คาดว่าจะเพิ่มในอนาคต ผลของการร้อนขึ้นที่มีต่อแต่ละภูมิภาคของทั้งโลกว่าจะมีความแตกต่างกันอย่างไร การโต้เถียงกันทางการเมืองและสาธารณชนทั้งโลกที่เกี่ยวกับมาตรการ ถ้ามี ว่าควรเป็นอย่างไรจึงจะลดหรือย้อนกลับการร้อนขึ้นของโลกในอนาคต หรือจะปรับตัวกันอย่างไรต่อผลกระทบของปรากฏการณ์โลกร้อนที่คาดว่าจะต้องเกิดขึ้น รัฐบาลของประเทศต่างๆ เกือบทั้งหมดได้ลงนามและให้สัตยาบรรณในพิธีสารเกียวโตซึ่งมุ่งประเด็นไปที่การลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกและประเทศต่างๆ นอกจากสหรัฐฯ ก็ยังมีการอภิปรายถกเถียงในเรื่องผลกระทบและความไม่แน่นอนของปรากฏการณ์โลกร้อนนี้น้อยมาก



อ่านดูแล้วรู้สึกถึงความน่ากลัวที่จะเกิดในอนาคตเลย

ก็ต้องร่วมมือร่วมใจกันช่วยโลกเราเอง

โลกเราเราไม่ช่วยแล้วใครจะมาช่วย จริงมั้ย ^^