วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2551

Micro & Macro

หลังจากได้รับโจทย์มาเป็นคำสองคำ ว่า Macro & Micro
ตอนแรกผมรู้จักมันในความหมายว่า จุลภาค และ มหัพภาค

การเข้าไปหาข้อมูลกับความหมายมันอีกครั้งเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น
เป็นเรื่องที่ควรทำในการหาโครงการทำงานออกแบบจากสองคำนี้

หลังจากที่หาข้อมูลด้วยตัวเองในระดับหนึ่ง ทำให้คิดว่ากรอบของคนหนึ่งคนมันแคบไป
จึงได้นัดเพื่อนๆไปคุยกันที่ทรูคาเฟ่ (สถานที่ที่เหมาะแก่การคุยที่สุดในซอยหอ) อีกครั้ง
โดยมี ผม(โอ) เน็ท เดา พุด โก้ และฟรานเชสโก้ โม่ วริท

เราได้คุยกันในหลายๆมุมมอง และเริ่มด้วยการถกเถียง (โต๊ะข้างๆอาจจะนึกว่าทะเลาะกัน เห็นลุกหนี)
ก็เริ่มด้วยการคิดเรื่องของความเกี่ยวข้องกัน ระหว่าง ไมโคร และแม็คโคร
ว่าถ้ามีไมโครแล้วไม่มี แม็คโครได้มัย มันมีความสัมพันธ์กันในด้านไหนบ้าง

หลังจากคุยไปซักพักก็เริ่มเข้าใจกันมากขึ้น และเราก็คิดว่าการหาตัวอย่าง
หรือหาเรื่องมาครอบ จะทำให้เราเข้าใจเรื่องนี้ได้มากขึ้น

ดีโก้เริ่มยกตัวอย่างด้วยเรื่องง่ายๆ ถึงเรื่องเศรษฐศาสตร์ที่เราเคยเรียนกันมา
นั่นคือ เศรษฐกิจระดับมหัพภาค จุลภาค
เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อย่างเข้าใจง่าย อย่างเช่น
ในประเทศมีร้านมินิมารทอยู่มากมาย ถ้าร้านหนึ่งเกิดขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
ก็คิดว่าคงจะไม่ทำให้เศรษฐกิจทั้งประเทศดีไปด้วยได้
แต่ถ้าร้านค้าขายดีหลายๆ ร้าน แน่นอน ประเทศก็จะมีเศรษฐกิจที่ดีตามไป

นั่นคือ

ร้านค้า >>> จุลภาค
ประเทศ >>> มหัพภาค
ผลกระทบทางจุลภาค เมื่อมีมากๆ จะทำให้มหัพภาคเกิดการเปลี่ยนแปลง

หลังจากเราคุยถึงตรงนี้ก็ทำให้รู้สึกว่า จุลภาค มหัพภาค จะมีจุดเชื่อมมันอยู่
ซึ่งจุดนั้นแหละที่จะทำให้เรื่องมันต่างไป และทำให้ทุกคนเริ่มหาประเด็นกันได้

ผมได้สนใจในตัวอย่างที่เดาพูดขึ้นมา เรื่อง Butterfly Effect
ที่มีพูดถึงว่า ถ้าผีเสื้อหนึ่งตัวกระพือปีก อาจจะทำให้เกิดพายุหมุนได้ในที่ไกลๆ
มันเป็นเรื่องที่บอกได้ว่าเป็นเรื่องของ ไมโคร และแม็คโครเช่นกัน

และทำให้เกิดสงสัยในประเด็นเดียวกับโม่ ในเรื่องของขอบเขต
ว่าการเปลี่ยนแปลงแค่ไหน ของโมโคร ถึงจะทำให้แม็คโคร
เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือแค่ไหนที่ไม่เกิด
ซึ่งจริงๆ แม้จะเพียงนิดเดียวถ้ามันเกิดการเปลี่ยนแปลงไป
ในด้านของ Visual อาจจะรับรู้ไม่ได้ แต่เรื่องมันก็ต่างเปลี่ยนไปแล้ว

จากทั้งหมดนี้ก็คิดว่าตัวเองเริ่มมีเรื่องที่จับได้ และเริ่มนึกไปถึงว่าตัวเอง
จะเอาเรื่องเรื่องอะไรมาครอบเพื่อให้เข้าใจใน เรื่องที่ผมคิดได้และต้องการจะบอก
รวมไปถึงการออกแบบในทางภาพด้วย



ต้องขอบคุณเพื่อนๆทั้งหลาย ที่ร่วมกันถกเถียงเรื่องนี้
จนได้ประเด็นที่เป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
(คุยกันเล่นๆว่า คนที่ฟังเราคุยกันจะรู้มั้ยว่าเราเรียนศิลปกรรม
เพราะเรื่องที่คุยมันโดดไปโดดมา หลายเรื่อง ซึ่งเห็นปฏิกริยาคนรอบๆแล้ว
ก็สนุกดี)